นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
บริษัท ฮ้องขวัญ จำกัด
วันที่ 30 พฤกษาคม 2565
บริษัท ฮ้องขวัญ จำกัด ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณและปฏิบัติตามกฎหมาย รวมทั้งตระหนักถึงความสำคัญในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่ติดต่อและ/หรือทำธุรกรรมกับบริษัทฯ เช่น ลูกค้า คู่สัญญา คู่ค้า ผู้รับจ้าง ผู้ให้บริการ ผู้สมัครงาน พนักงาน เป็นต้น (“ท่าน”) ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้กำหนดและบังคับใช้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ฉบับนี้ (“นโยบาย”) เพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติและวิธีการที่บริษัทฯ ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย มาตรฐานขั้นสูงและขั้นตอนการดำเนินงานที่เข้มงวด เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ให้ถูกเข้าถึง นำไปใช้ เปลี่ยนแปลง หรือ เปิดเผยโดยมิชอบ รวมถึงการปฏิบัติให้เป็นไปตามสิทธิของท่านภายใต้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)
บริษัทฯ ขอแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายฉบับนี้โดยละเอียดก่อนที่ท่านจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทฯ ตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่ระบุไว้ในนโยบายนี้ เพื่อให้ท่านรับทราบและเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ตลอดจนสิทธิและความคุ้มครองของท่านภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
ข้อ 1: สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมของท่านในเวลาใดก็ได้ สำหรับวัตถุประสงค์ที่ท่านได้ให้ความยินยอมให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : ท่านสามารถขอเข้าถึง ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification) : ท่านสามารถขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง และทำให้ข้อมูลของท่านเป็นปัจจุบัน
สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure) : ท่านสามารถขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing) : ท่านสามารถขอให้บริษัทระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งหมด หรือบางส่วน เป็นการชั่วคราวหรือถาวร
สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability) : ท่านมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบางประการได้
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object) : ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับท่าน ในกรณีดังนี้
7.1) กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
7.2) กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท
7.3) กรณีที่เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ด้วยเหตุจำเป็น เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท หรือเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เว้นแต่บริษัทแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่ท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ นั้น ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
8.1) ในกรณีที่ท่านพบว่าบริษัทฯ หรือบุคลากรใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน ไม่เป็นไปตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ หรือไม่เป็นการประมวลผลตามที่มีสิทธิตามกฎหมาย ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้
8.2) การที่ท่านได้เพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใดอาจส่งผลให้เรามีข้อมูลไม่เพียงพอต่อการประมวลผลให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้ง และท่านอาจขาดความสะดวกในการได้รับบริการจากทางบริษัทฯ
ข้อ 2: การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ยินยอมให้ข้อมูลกับบริษัทฯ โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อการขอรับบริการจากเราผ่านช่องทางเว็บไซต์ หรือช่องทางอื่นใดของเรา ตัวอย่างเช่น การนัดหมาย การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าว การขอรับความช่วยเหลือพิเศษ รวมไปถึงการทําธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนคนไข้ที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนของคลินิก
นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น บุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดของท่าน หน่วยงานภาครัฐ หรือ หน่วยงานอื่นๆในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไว้ หรือเป็นการเปิดเผยตามที่กฎหมายกําหนด
2.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมโดยตรงจากท่าน หรือจากบุคคลที่สามมี ดังนี้
· ข้อมูลระบุตัวตน เช่น ชื่อ ภาพถ่าย เพศ วันเดือนปีเกิด หนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประชาชน หรือหมายเลขที่สามารถระบุตัวตนอื่นๆ
· ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล์
· เนื้อหาที่คุณสนใจ
· ข้อมูลการเข้ารับบริการ เช่น ข้อมูลการนัดหมายกายภาพบำบัด ข้อมูลส่วนบุคคลของญาติ ความต้องการ เกี่ยวกับห้องพัก อาหาร และบริการเสริมอื่นๆ
· ข้อมูลการสมัครรับข่าวสารและเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด
· ข้อมูลสถิติ เช่น จำนวนผู้ป่วย และการเข้าชมเว็บไซต์
· ข้อมูลจากการเข้าใช้เว็บไซต์ของเรา เช่น IP Address, Cookies, Online Appointment System, Online Consult
· ข้อมูลด้านสุขภาพ รายงานที่เกี่ยวกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพของท่าน ผลการทดสอบจากห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ และการวินิจฉัย
· ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและการแพ้ยาของท่าน
· ข้อมูล Feedback และผลการรักษาที่ท่านให้ไว้
ในกรณีที่ท่านทำธุรกรรมกับทางบริษัท จะมีการจัดเก็บข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติม เช่น
· ข้อมูลการเรียกเก็บเงิน
· ข้อมูลการชําระเงิน
· ข้อมูลบัตรเครดิตหรือเดบิต
· รายละเอียดบัญชีธนาคาร
รวมถึงข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เท่าที่จําเป็น โดยข้อมูลจะต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ข้อมูลเป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดการเข้าใจผิด การรวบรวมข้อมูลดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถทราบความต้องการของท่าน ความแตกต่างของสินค้าและบริการที่ท่านจะได้รับจากผู้ใช้บริการรายอื่นๆ และหากท่านให้ข้อมูลกับบริษัทมากเท่าใด บริษัทก็สามารถให้บริการได้ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
นอกจากขั้นตอนการลงทะเบียนแล้ว บริษัทอาจสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเพิ่มเติมจากท่าน เช่น เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรม หรือบริการที่บริษัทหรือพันธมิตรทางธุรกิจจัดขึ้น โดยท่านอาจต้องระบุข้อมูลเพิ่มเติม เช่น สินค้าที่ชื่นชอบ ความสนใจ พฤติกรรม ฯลฯ การแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมจะทำให้ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้า หรือใช้บริการต่างๆ ได้มากขึ้น และไม่พลาดโอกาสพิเศษสำหรับสมาชิก
บริษัทฯ จะไม่เก็บและใช้ข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน ดังต่อไปนี้ เชื้อชาติ ความเชื่อทางศาสนา ประวัติอาชญากรรม เว้นแต่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งของท่าน เป็นไปตามที่ข้อบังคับและกฎหมายกำหนด เช่น
· เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
· เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูล
· เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การจัดการด้านสุขภาพ เพื่อการควบคุมมาตราฐานหรือคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์ซึ่งได้จัดให้มีมาตราการที่เหมาะสมและเจาะจงเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลโดยเฉพาะการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่หรือตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
การเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับเครื่องมือโซเชียลมีเดีย (Social Media)
หากท่านสมัครใจใช้บัญชีโซเชียลมีเดียในการลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือบริการของบริษัท บริษัทอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้โดยสมัครใจกับบัญชีโซเชียลมีเดียของท่าน ผ่านผู้ให้บริการรายนั้นๆ ภายใต้นโยบายต่างๆ ของผู้ให้บริการ บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามนโยบายส่วนบุคคลของบริษัท
บริษัทจะสามารถจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อเมื่อท่านสมัครใจเท่านั้น หากท่านเลือกที่จะไม่ยินยอมให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถส่งข้อมูลเพื่อเพิกถอนความยินยอมการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบริษัท ทั้งนี้ บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการ หรือให้ความช่วยเหลือได้ตรงกับความต้องการของท่านได้ ทำให้ท่านเสียโอกาสที่จะได้รับสิทธิพิเศษ หรือบริการที่บริษัทหรือพันธมิตรจัดทำขึ้น
ข้อ 3: จุดประสงค์การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และการเปิดเผยข้อมูล
วัตถุประสงค์เบื้องต้นของบริษัทในการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล คือ เพื่อให้ผู้ใช้บริการแต่ละรายของบริษัทได้รับสินค้าและบริการที่ดีจากบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างกัน หรือการใดๆ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทสำหรับวัตถุประสงค์ ดังนี้
3.1 วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการให้บริการทางการแพทย์ ได้แก่
· จัดหาบริการหรือส่งมอบบริการของเราและการเข้าถึงบริการของท่าน ไม่ว่าทางออนไลน์หรือออฟไลน์
· นัดหมายกายภาพบำบัด นัดหมายเข้าพัก ส่งข่าวสาร แนะนําบริการของคลินิกกายภาพบำบัด และ ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพฤกษ์ ผู้สูงอายุ
· การประสานงานและส่งต่อข้อมูลให้กับบริษัทในเครือ และ/หรือสถานพยาบาลอื่น ซึ่งจะช่วยให้การส่งต่อผู้ป่วย มีความรวดเร็วขึ้น
· การยืนยันตัวตนของผู้ป่วย ส่งข้อความแจ้งเตือนการนัดหมายกายภาพบำบัด นัดหมายเข้าพัก หรือการเสนอความช่วยเหลือจากบริษัท
· วัตถุประสงค์ทางบัญชีหรือทางการเงิน เช่น การตรวจสอบการชําระเงินผ่านบัตรเครดิต การเรียกเก็บเงินและการตรวจสอบความถูกต้อง การขอคืนเงิน
· อำนวยความสะดวกและนำเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ท่าน
· จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย และธุรกิจพันธมิตร
· เพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสาร ตอบคำถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียน
· สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด วิเคราะห์ทางสถิติ ประมวลผลและแสดงผลเพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ หรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ให้แก่ ผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์ยิ่งขึ้น
· รักษาความปลอดภัย รวมถึงความปลอดภัยขณะพักรักษาอยู่ที่คลินิก / ศูนย์ฯ
· ปฏิบัติตามกฎของคลินิกกายภาพบำบัด
· ปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อกําหนด ระเบียบ ข้อบังคับ หรือการร้องขอใดๆ จากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียกพยาน หรือคำสั่งศาล หรือการร้องขออื่นๆ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
· วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่สนับสนุนการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ข้างต้น หรือที่ได้รับความยินยอมจากท่านเป็นครั้งคราว
3.2 วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดของบริษัทฯ ซึ่งจะประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เหล่านี้เฉพาะกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลแก่เรา ได้แก่
· เพื่อสนับสนุนการส่งมอบบริการ, โฆษณา, ผลิตภัณฑ์, สิทธิพิเศษ, กิจกรรมด้านการตลาดที่ตรงกับความต้องการของท่าน ผ่านช่องทางส่วนบุคคลที่ท่านยินยอมให้บริษัท
· อํานวยความสะดวกและนําเสนอรายการสิทธิประโยชน์ต่างๆ
· จุดประสงค์ด้านการตลาด การส่งเสริมการขาย และการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การส่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์และบริการ รายการส่งเสริมการขาย สิทธิพิเศษ และการใช้รูปถ่ายเพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์
· เพื่อวิจัยและวิเคราะห์ประสบการณ์ของผู้ใช้บริการเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน และโซเชียลมีเดีย (Social Media) ทำให้ท่านสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง และตรงกับพฤติกรรมของท่าน
· เพื่อปรับแต่งข้อเสนอ โฆษณา สิทธิพิเศษ กิจกรรมด้านการตลาด หรือเนื้อหาที่คุณสนใจ ซึ่งจะส่งให้ท่านผ่านทางช่องทางต่างๆ ของ บริษัท ฮ้องขวัญ จำกัด เช่น เว็บไซต์, อีเมล, การแจ้งเตือนภายในเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, หรือช่องทางอื่นๆ ในอนาคต
· เพื่อสํารวจความพึงพอใจของลูกค้า วิจัยตลาด และวิเคราะห์ทางสถิติ เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการหรือสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ
· เพื่อดำเนินการตามคำสั่งซื้อสินค้า หรือบริการของท่านผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะขายโดยบริษัท หรือบริษัทพันธมิตร
· เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะดำเนินการโดยบริษัท หรือบุคคลภายนอก รวมถึงบริษัทพันธมิตร
· เพื่อติดต่อผู้ใช้งานสำหรับการให้บริการ และดูแลผู้ใช้งาน หรือสำหรับการสื่อสารด้านการตลาดที่ได้รับอนุญาตตามช่องทางการสื่อสารที่ท่านยินยอมให้ทางบริษัท
· เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร ตอบคําถาม หรือตอบสนองข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ เช่น ปัญหาการใช้บริการ
· เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย
3.3 บุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผย
บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือนอกประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนด และเราจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสมหรือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
· คลินิกสาขา บริษัทในเครือ ธุรกิจคู่ค้า และธุรกิจพันธมิตร
· ตัวแทน ผู้ให้บริการ หรือคู่ค้าที่ให้บริการแก่เรา หรือดำเนินการใดๆ ในฐานะตัวแทนของเรา เช่น ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ให้บริการรถฉุกเฉิน
· ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
· เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย
· หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
· หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้
อาจมีการจัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลในระบบคลาวด์ (Cloud) ในต่างประเทศ ซึ่งในกรณีนี้ ผู้ให้บริการนั้นไม่มีอำนาจในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่ดำเนินการแทนบริษัทโดยอิสระแต่อย่างใด และผู้ให้บริการดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
นโยบายส่วนบุคคลนี้ไม่ครอบคลุมการรวบรวม และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอก ที่กระทำโดยบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผู้โฆษณา ผู้ให้บริการ ผู้ขายสินค้าในเว็บไซต์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อ (Link) กับเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, โซเชียลมีเดีย (Social Media) หรือช่องทางในอนาคตของบริษัท การเชื่อมโยงระบบโซเชียลมีเดีย (Social Media) เพื่อแชร์เนื้อหาในช่องทางของบริษัท หากการกระทำใดๆ ก็ตามที่ขัดต่อกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ อันเนื่องมาจากการกระทำหรือการรวบข้อมูลโดยบุคคลภายนอก
ข้อ 4: ข้อจำกัดในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1.บริษัทจะใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามความยินยอมของท่าน โดยจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลของบริษัทเท่านั้น บริษัทจะกำกับดูแลพนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่
1.1)เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและอาญา ฯลฯ
1.2)เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
1.3)เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
1.4)เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัท
1.5)เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
1.6)เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
1.7)เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
2.บริษัทอาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่บริษัทกำหนด
ข้อ 5: ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น อย่างสมเหตุสมผล หรือตามข้อตกลงในสัญญา เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นมา และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานขึ้น หากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
ข้อ 6: การเปลี่ยนแปลงนโยบายส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ กฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้ง ให้ท่านทราบด้วยการ อัพเดตข้อมูลผ่านสื่อของบริษัทโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้หากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโปรดติดต่อได้ที่ E-mail : wrclinical1@gmail.com
ข้อ 7: ช่องทางการติดต่อบริษัท
ท่านสามารถร้องขอการเข้าถึงหรือขอให้อัปเดตและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงสิทธิอื่นใดข้างต้น หรือสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับ เช่น ขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้ระงับการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรณีเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้เกินขอบเขตวัตถุประสงค์การใช้งานที่แจ้งให้ทราบข้างต้น หรือไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน ท่านต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแนบสำเนาหลักฐานเพื่อแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / สำเนา Passport และข้อมูลการติดต่อกลับ ได้ที่ บริษัท ฮ้องขวัญ จำกัด 70/19 หมู่ 8 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบางบางเลน อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี 11140 เบอร์โทรศัพท์ : 02-108-3453E-mail : wrclinical1@gmail.com
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 30 พฤกษาคม 2565